วิเคราะห์สภาพปัญหาของ 4 อำเภอ จ.วสงขลา

ใบงานที่2
วิทยาลัยชุมชนสงขลา
ชื่อ นาย นูรุดดีน สาเร๊ะ เลขที่ 9 สาขาวิชา พัฒนาชุมชน

1. ให้นักศึกษาวิเคราะห์ สภาพปัญหาของเขตพื้นที่4 อำเภอ ของ จังหวัด สงขลา คืออำเภอเทพา อำเภอจะนะ อำเภอนาทวี และอำเภอสะบ้าย้อย
1.1 สาเหตุของสภาพปัญหา
ตอบ
สาเหตุหลักๆมาจาก:-
- การบริหารของเจ้าหน้าที่รัฐ เกี่ยวกับความเข้าใจต่อวัฒนธรรมประเพณี และความแตกต่างด้านการสื่อสารทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อระบบราชการ
- การศึกษา มันมีปัญหามายาวนานเกี่ยวกับค่านิยมที่ผิดๆต่อระบบการศึกษา และโอกาสทางการศึกษา
- ปัญหาทางเศรษฐกิจและราคายางตกต่ำ
- ปัญหาความโปร่งใสของนักการเมือง
- ปัญหาความไม่สงบ มันมีส่วนเกี่ยวโยงกับพื้นที่3จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งบางครั้งมีผู้กระทำผิดหลบหนีความผิดมาอยู่ในพื้นที่และมีการเสาะหาแนวร่วมในพื้นที่เพื่อปฏิบัติการก่อความไม่สงบ
- ปัญหาการใช้ทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือย จนกระทั่งมีการผลาญทรัพยากรโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- ปัญหาวิกฤติการลุ่มน้ำ
- ปัญหายาเสพติด
1.2 เสนอแนวทางแก้ไข ที่คาดว่าจะดำเนินการได้ในพื้นที่ดังกล่าว(อำเภอเทพา อำเภอจะนะ อำเภอนาทวี อำเภอสะบ้าย้อย)
ตอบ
- แนวทางแก้ปัญหาการบริหารของเจ้าหน้าที่รัฐ คือต้องมีการเสริมสร้างความเข้าใจต่อระบบของสังคม ประเพณีและวัฒนธรรมเพื่อความสอดคล้องและความเข้าใจอันดีระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับประชาชน
- การศึกษา ต้องมีการปลูกแนวคิดที่ถูกต้องและให้เห็นความสำคัญต่อการศึกษา รวมทั้งให้โอกาสทางการศึกษาทั่วถึงในทุกชุมชนของพื้นที่
- ปัญหาทางเศรษฐกิจและราคายางตกต่ำ รัฐบาลต้องหาแนวทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและราคายางตกต่ำ ด้วยมาตรการกระตุ้นการส่งออกรวมทั้งการส่งเสริมอาชีพให้แก่ชุมชนเพื่อความไม่ยึดติดกับยางพาราเพียงอย่างเดียว
- ปัญหาความโปร่งใสของนักการเมือง แก้ปัญหาด้วยการที่รัฐหาทางแก้ปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียงของนักการมือง เพราะเมื่อมีการซื้อสิทธิขายเสียงก็จะมีการถอนทุนคืนจากการซื้อเสียง
- ปัญหาความไม่สงบ สำหรับปัญหานี้แก้ยากมากๆเหมือนกับปัญหาความโปร่งใสของนักการเมือง เพราะปัญหามันหยั่งรากลึกเกินกว่าจะถอนได้ในเวลาอันสั้น จะมีก็เพียงแต่การแก้ปัญหาในระยะยาวโดยการสร้างแนวคิดเรื่องชาตินิยมขึ้นมาใหม่ หรือการปลุกจิตสำนึก ส่วนการแก้ปัญหาในระยะสั้นแก้ได้ด้วยการช่วยกันเป็นหูเป็นตามีอะไรไม่ชอบมาพากลเข้ามาในชุมชนก็ต้องมีการแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบเพื่อที่จะได้แก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งปัญหานี้มันกับอีกหลายๆด้าน เช่นปัญหาการศึกษา, ปัญหาการว่างงาน, ปัญหาเกี่ยวแนวคิดที่ผิดๆจนบางครั้งมันไปรวมถึงเรื่องของศาสนาทั้งๆที่ความจริงมันไม่ได้เกี่ยวกับศาสนาเลยเพราะไม่มีศาสนาใดที่สอนให้ผู้นับถือศาสนาฆ่าคนบริสุทธิ์ ก็ต้องแก้ไปตามขั้นตอนของปัญหา และอีกหลายๆวิธีแก้ขึ้นอยู่ว่าจะแก้หรือไม่แก้....เท่านั้นเอง
- ปัญหาการใช้ทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือยจนกระทบหรือสร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศน์ ขอยกตัวอย่างการรับซื้อไม้ทุกอย่างที่ขวางหน้ายกเว้นไม้นุ่นเพื่อนำไปป้อนให้แก่โรงงานเพื่อทำไม้ฟืน ก็อย่างที่ทราบว่าต้นไม้คือตัวชี้วัดของระบบนิเวศน์ เมื่อไม่มีต้นไม้ทุกอย่างก็จบ เป็นต้น
- ปัญหาวิกฤติการลุ่มน้ำ เช่นแถบลุ่มแม่น้ำเทพา ปัญหามันเกิดจากหลายๆสาเหตุ ขอยกตัวอย่างเช่นการได้รับสัมปทานดูดทรายทำให้ตลิ่งของแม่น้ำพัง ส่วนการทำลายป่าไม้ก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาลุ่มน้ำเหมือนกัน
- ปัญหายาเสพติด นี่ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ต้องยอมรับว่าปราบเท่าใดก็ไม่หมด ตราบใดที่สังคมยังมีปัญหาสังคม ที่พอจะมีทางแก้ปัญหาได้ก็มีแต่การบูรณาการในทุกๆด้านของปัญหา เช่นด้านการศึกษา,ด้านสายใยรักในครอบครัว รวมทั้งบทลงโทษต่อผู้ค้า ก็น่าจะมีส่วนในการแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่ง และอีกหลายๆวิธีแก้ปัญหาที่ภาครัฐควรมีมาตรการที่เข้มแข็งมากกว่านี้
นี่เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาและวิธีแก้ ยังมีอีกมากที่ไม่ได้กล่าวในที่นี้
2. สภาพปัญหาที่เกิดขึ้นกับจังหวัดสงขลาในอดีตจนถึงปัจจุบันนี้ ให้นักศึกษาวิเคราะห์ตามรายละเอียดต่อไปนี้
2.1 ด้านเศรฐกิจ
ตอบ
- นอกจากตัวเมืองหาดใหญ่ที่มีตัวเลขทางเศรษฐกิจอยู่ในขั้นดีจากธุรกิจท่องเที่ยวและการค้าแล้ว พื้นที่อื่นๆของจังหวัดสงขลาก็เหมือนกับหลายๆจังหวัดที่ประสพกับปัญหาความยากจนอยู่มากพอสมควร กระนั้นก็ถึงแม้ว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจจะดีอยู่พอสมควรแต่ก็ประสพกับปัญหาอื่นอยู่เหมือนกันเช่นปัญหาสังคม,ปัญหาชุมชนแออัด เป็นต้น
- ปัญหาความเสถียรภาพของราคายางซึ่งเป็นเศรษฐกิจหลัก ทำให้สังคมประสบปัญหาทางเศรษฐกิจไปด้วย
- ปัญหาความว่างงาน,ปัญหาความมั่นคง ทำให้กระทบกับตัวเลขทางเศรษฐกิจไปด้วย เป็นต้น
2.2 ด้านสังคมและวัฒนธรรม
ตอบ
- ปัญหายาเสพติดจังหวัดสงขลาเป็นจังหวัดใหญ่ มีประชากรมาก มีการประกอบอาชีพที่หลากหลาย มีสถานประกอบการ สถาบันการศึกษาจำนวนมาก จึงมีปัญหายาเสพติดเกิดขึ้นมาก โดยในจำนวนหมู่บ้านทั้งหมดในปัจจุบัน 998 หมู่บ้าน เป็นหมู่บ้านแพร่ระบาดรุนแรง 56 หมู่บ้าน ปานกลาง 107 หมู่บ้าน เบาบาง 542 หมู่บ้าน และปลอดยาเสพติด 293 หมู่บ้าน
- ปัญหาชุมชนแออัด ราษฎรจากในชนบทและต่างจังหวัดได้อพยพมาทำงานในเขตเมือง มีการบุกรุกที่สาธารณประโยชน์ที่ดินว่างเปล่า และที่ดินของทางราชการเป็นที่อยู่อาศัย จนกลายเป็นชุมชนแออัด เช่น ชุมชนเก้าเส้ง ชุมชนบ่อนวัวเก่า ชุมชนหน้าสถานีรถไฟ เป็นต้น
- ปัญหาความยากจน ราษฎรประสบปัญหาในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม เนื่องจากดินฟ้าอากาศเปลี่ยนแปลง รายได้ไม่พอใช้จ่าย และว่างงาน ก่อให้ประสบปัญหาความเดือดร้อนในการดำรงชีพ
- ปัญหาจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนใต้มันลุกลามเข้ามาในพื้นที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นมากมายในสังคม
2.3 ด้านการเมืองการปกครอง
ตอบ
- ปัญหาการเมืองการปกครองนั้น ยากลำบากยิ่งที่จะนำเสนอ เพราะเป็นปัญหาที่ละเอียดอ่อน ต้องอาศัยข้อมูลประวัติศาสตร์ ตั้งแต่สมัยอาณาจักรลังกาสุกะ ตลอดจนราชอาณาจักรไทยทุกยุคทุกสมัย ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า อาณาจักรดินแดนแถบนี้ ปกครองตนเองมานานแสนนาน แม้บางยุคจะตกเป็นเมืองขึ้นในลักษณะประเทศราช แต่ก็เป็นเพียงความผูกพันในลักษณะส่งเครื่องบรรณาการ อย่าง ต้นไม้เงิน ต้นไม้ทองมาบรรณาการแก่ประเทศสยาม ซึ่งเป็นความสัมพันธ์เชิงอำนาจ หาได้เกี่ยวข้องกับเรื่องภายในดินแดนรัฐนั้นเลย จนกระทั่งมาถึงสมัยปฏิรูปของสยาม ในรัชกาลที่ ๕ แห่งรัตนโกสินทร์ ที่อำนาจมีนัยถึงการเป็นเจ้าของดินแดนนั้นด้วย หลังจากที่มีเหตุการณ์ต่อสู้ขัดขืนจากรายาปัตตานี จากการเข้ามาครอบงำของสยามประเทศถึง 6 ครั้งด้วยกัน ซึ่งในปัจจุบันนั้น ปัญหาทางการเมืองการปกครองในแถบชายแดนใต้ จากการสรุป เบื้องต้นที่เด่นๆ ได้ดังนี้:-
- ปัญหาประวัติศาสตร์ที่คลอดเคลื่อน หากผู้อ่านได้ศึกษา และค้นคว้าเพิ่มเติมจากแหล่งวิชาการที่เชื่อถือได้จะทำให้ทราบว่า ประวัติศาสตร์ที่คลาดเคลื่อน ทำให้เข้าใจไม่ตรงกัน และยากที่จะก้าวไปด้วยกันในอนาคต ยิ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีการสื่อสาร และการคมนาคม มันรวดเร็วมีประสิทธิภาพมาก การไม่ชำระประวัติศาสตร์ ให้มีความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน การจะอยู่ร่วมกันอย่างมีศักดิ์ศรี โดยปราศจากความเคลือบแคลง และอคติ ในอนาคตคงยากที่จะเกิดขึ้น
- ปัญหากระบวนการยุติธรรม กฎหมายหลายฉบับ โดยเฉพาะกระบวนยุติธรรมตั้งแต่ตำรวจ อัยการ ศาล และเรือนจำ ยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นว่า มีประสิทธิภาพ โปร่งใส เที่ยงธรรม เป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชน
- ปัญหาการการปกครอง ระบบราชการ หรือ ฝ่ายปกครองในปัจจุบัน ยังไม่สามารถ แก้ไขปัญหาประชาชนได้ เพราะไม่สามารถเชื่อมโยง และไม่สามารถสร้างการยอมรับซึ่งกันและกัน
- ปัญหาด้านผู้นำศาสนา ปัจจุบันการยอมรับผู้นำศาสนาน้อยลง เพราะระบบการเลือกตั้งโต๊ะอิหม่าม อำนาจหน้าที่ที่ถูกจำกัดจากกฎหมาย การแทรกแซงจากทางรัฐและการเมืองระดับชาติ การศึกษาศาสนาจากสถาบันต่างประเทศของคนรุ่นใหม่ ทำให้สังคมชุมชนขาดเอกภาพ ทำให้ภาครัฐขาดกลไกทางการปกครองที่สำคัญไป
อย่างที่บอก ประเด็นทางการเมืองการปกครองนั้น ถ่ายทอดยากมาก หมิ่นเหม่ เพราะสุ่มเสี่ยงที่จะขัดกับภาครัฐ ซึ่งได้ชื่อว่า “ ผู้ปกครอง” ซึ่งหากพวกเราทนดู “ผู้ปกครอง” เจตนาดีแต่กลับเป็นผลร้ายกับ “ผู้ใต้ปกครอง”…
2.4 ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ตอบ
- ป่าไม้ จังหวัดสงขลา มีเนื้อที่ประมาณ 4,513,343 ไร่ ได้ประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติรวม 41 ป่า เนื้อที่ 1,256,669 ไร่ หรือ 27.84% ของเนื้อที่จังหวัด และจากการแปลภาพถ่ายดาวเทียม ปี 2547 พื้นที่ป่าไม้ลดน้อยลง ปัจจุบันเหลือ 557,150 ไร่ หรือ 12.34% ของเนื้อที่จังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์ในเขตลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา 12 อำเภอ ของจังหวัดสงขลา มีเนื้อที่ป่าเหลือเพียง 300,150.51 ไร่ หรือ 6.65% ของเนื้อที่จังหวัด หรือ 4.90% ของพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ทำให้ขาดความสมดุลทางธรรมชาติ ปีนี้แล้งจัด อากาศร้อนแห้งแล้ง ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน พื้นที่ป่าเป็นระบบนิเวศที่ใหญ่ที่สุด สำคัญที่สุด ผืนป่าใหญ่ๆในจังหวัดสงขลา 7 ผืนสุดท้ายที่มีความสำคัญสูงสุดต่อชาวสงขลา ได้แก่:-
1. ป่าเขาน้ำค้าง-เขาแดน-ควนสิเหรง ในเขตท้องที่อำเภอสะเดา อำเภอนาทวี เป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญหลายสาย เช่น ในเขตอำเภอสะเดา-หาดใหญ่ มีคลองสะเดา คลองปริก คลองแงะ คลองลำพน คลองลำใหญ่ไหลลงคลองอู่ตะเภา ฯลฯ ในเขตอำเภอนาทวีกำเนิดคลองนาทวี คลองกวาง คลองลำพูด คลองลำชิง คลองบอน ไหลรวมกันเป็นคลองนาทวี
2. ป่าเขาวังพา-เทือกเขาแก้ว และควนเขาวัง ในเขตอำเภอหาดใหญ่-บางกล่ำ เป็นแหล่งกำเนิดคลองที่สำคัญ เช่น คลองจำไหร คลองลำ คลองต่ำ คลองสายวา คลองโตนงาช้าง คลองวาด คลองท่าช้าง คลองบางกล่ำ ฯลฯ
3. ป่าเขาเสงี่ยม-เขาจันดี และบ่อท่อ ในเขตกิ่งอำเภอนาหม่อมต่อเขตอำเภอจะนะ เป็นแหล่งต้นน้ำกำเนิดคลองหวะ คลองประจา ฯลฯ 4.ป่ายอดเขาแก้ว-ควนหินผุด ในเขตท้องที่อำเภอรัตภูมิ เป็นแหล่งกำเนิดคลองสำคัญ เช่น คลองเขาร้อน ฯลฯ
5.ป่าแม่พรุ-เทือกเขาไฟไหม้-คลองกั่ว และป่าควนทับช้าง (เทือกเขาบรรทัด) ในท้องที่อำเภอรัตภูมิ เป็นแหล่งกำเนิดคลองสำคัญ เช่น คลองรัตภูมิ (ภูมี) คลองทราย คลองพรุพ้อฯลฯ
6.ป่าเขาแดน-ควนเจดีย์ และป่าเทือกเขาโต๊ะเทพ-ควนหินลับ ในท้องที่อำเภอสะบ้าย้อย เป็นแหล่งกำเนิดคลองสำคัญ เช่น คลองเทพา คลองลำเปา คลองใหญ่ คลองตูหยง ฯลฯ ไหลรวมกันสู่คลองเทพา เรียกว่า "ลุ่มน้ำคลองเทพา" 7.ป่าควนนายเส้น-ควนเหม็ดชุน ในท้องที่อำเภอจะนะ เป็นแหล่งกำเนิดคลองสำคัญ เช่น คลองลำพด คลองคลำ คลองพ้อแดง คลองดินแดง แล้วไหลรวมเป็น "คลองสะกอม" สถิติการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า จากผลการตรวจปราบปรามการกระทำความผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ในท้องที่จังหวัดสงขลา ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2544-2547 (ตค. 46- กค.47) มีการจับกุมดำเนินคดีรวม 237 คดี แยกเป็นคดีแผ้วถางป่า 128 คดี/ปี ป่าถูกแผ้วถาง 1,151 ไร่ เฉลี่ย 287.75 ไร่ / ปี และคดีเกี่ยวกับไม้ 109 คดี เฉลี่ย 27 คดี/ปี ไม้ของกลางที่ตรวจยึด 277.342 ลบ.ม. เฉลี่ย 69.34 ลบ.ม./ปี ผู้ต้องหา 71 คน เฉลี่ย 18 คน/ปี จังหวัดสงขลา มีราษฎรบุกรุกยึดถือครองอยู่ใน 39 ป่า จำนวน 15,014 ราย จำนวนแปลง 14,644 แปลง เป็นเนื้อที่ประมาณ 273,425 ไร่ ผลจากการทำลายทรัพยากรป่าไม้ในระยะที่ผ่านมา จังหวัดสงขลา เหลือป่าอุดมสมบูรณ์ เพียง 12.34% ของเนื้อที่จังหวัด หรือ 557,150 ไร่
พื้นที่ป่าที่เหลือมากที่สุดคือ ที่สะบ้าย้อย รัตภูมิ และสะเดา ตามลำดับ
แนวนโยบาย ผู้ว่าฯ มีนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปดูแลระดับอำเภอ
- ทรัพยากรน้ำ
เกิดปัญหาอุทกภัย เรามีหมู่บ้าน 381 หมู่บ้านที่เกิดปัญหา ปี 31 เราประสบอุทกภัยใหญ่ ปี 42 ปริมาณน้ำฝน 2,963.3 มม./ ปี และ ปี 43 ปริมาณน้ำฝน 2,412.7 มม./ ปี เจออุทกภัยหนักกว่าทุกครั้ง แม้ว่าปริมาณน้ำฝนน้อย แต่มีปัจจัยอื่นอีกมาก โดยเฉพาะพื้นที่ป่าที่มีน้อย ความสามารถในการอุ้มน้ำจะน้อยลงด้วย และมีน้ำทะเลหนุน ผลักดันน้ำจืดไม่ให้ไหลลงทะเลสาบ ความเสียหาย 6,088 ล้านบาท มีหมู่บ้านประสบภัยแล้งซ้ำซาก 346 หมู่บ้าน (45.40%)
ปี 47 ปริมาณน้ำฝน 1,399 มม./ ปี น้ำเสียทั้งจังหวัดประมาณ 566,216 มม./วัน ความสามารถในการบำบัด 140,000 มม./วัน เกิดเหตุปลาตายที่คลองบางกล่ำ ได้ไปตรวจสอบ พบสาเหตุหลักคือ ปลาตายเนื่องจากขาดออกซิเจน สาเหตุมาจาก ความเค็มของน้ำทะเลสูง 20-30 ppt. ทำให้พืชน้ำต่างๆตาย เมื่อผักกะเฉดมีมากในคลองบางกล่ำ ทำให้ตกอยู่ในท้องคลอง เกิดการย่อยสลายโดยธรรมชาติ ดึงออกซิเจนมาย่อยสลาย และเกิดแก๊สไข่เน่าขึ้น ในท้องคลองบางกล่ำเกิดวัชพืชมาก มีแก๊สไข่เน่ารุนแรง ทำให้ออกซิเจนขาด และเกิดปัจจัยเสริมอีกตัว คือเกิดหมอกควันจากไฟป่า ฟ้าปิด พืชน้ำเหนือผิวน้ำไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้ ทำให้ขาดออกซิเจนมากขึ้น และในคลองมีน้ำจืดน้อยมาก เมื่อระบบนิเวศน้ำเค็ม น้ำกร่อย น้ำจืด ไม่เหมือนเดิมทำให้เกิดภาวะน้ำเค็มเรื่อยๆ ทำให้พืชน้ำตาย ออกซิเจนขาด ปลาจึงเกิดช็อกแล้วตาย การแก้ปัญหา ได้กำหนดแนวทางไว้หลายประการ ซึ่งต้องการมีส่วนร่วมจากประชาชนและทุกหน่วยงาน น้ำบาดาลในจังหวัดสงขลา มีการขุดเจาะอย่างกว้างขวางและมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากน้ำผิวดินขาด ทำให้ต้องนำน้ำใต้ดินมาใช้ประโยชน์ เวลานี้มีบ่อที่ได้รับอนุญาต 900กว่าบ่อ จากหน่วยงานภาครัฐ กว่า 3 พันบ่อ สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือบ่อน้ำบาดาลที่แอ่งหาดใหญ่ ที่ใช้มากที่สุด ชั้นน้ำบาดาล 20-100 เมตร ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ปัญหาน้ำทะเลจะรุกล้ำมาแทนที่ชั้นน้ำบาดาลในอนาคต
หาดใหญ่ สงขลา มีปริมาณน้ำในคลองอู่ตะเภาลดลงเรื่อยๆ น้ำต้นทุนน้อย จะกระทบการผลิตน้ำประปา และทำให้ความเค็มรุกล้ำเข้าสู่คลองอู่ตะเภาเพิ่มขึ้น ปัญหาขยะ ที่มีอยู่ประมาณ 1053.33 ตัน/วัน ขณะที่ขีดความสามารถกำจัดขยะ ได้เพียง 445 ตัน/วัน ไม่ได้เกิดแค่มลพิษทางอากาศ แต่ทำให้เกิดมลพิษทางน้ำตามมา หากมีการนำไปทิ้งในน้ำ
- ทรัพยากรดิน จังหวัดสงขลา ดินใช้ในการเกษตร 2 ใน 3 ปัญหาที่เจอคือดินเสื่อม ตัวชี้วัดคือผลผลิตการเกษตรต่ำ ยางพารามีผลผลิต 280 กก/ไร่/ปี ข้าว300-400 กก./ปี ดินเค็ม ดินเปรี้ยวมากขึ้นเรื่อยๆ
ประชาชน 9% ในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลามีความยากจน ปริมาณตะกอนที่เกิดขึ้นสร้างปัญหาใหญ่ เกิดผลกระทบทำให้น้ำในคลองหลักตื้นเขิน
- มลพิษทางอากาศ
ชุมชนใหญ่ๆเช่นหาดใหญ่ เริ่มมีปัญหา เรามีสถานีตรวจวัดอากาศ คอยวัดสภาพอากาศ ที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี เว้นในช่วงเกิดหมอกจากอินโดนีเซีย
สรุปปัญหาทั้งหมดของจังหวัด คือ พื้นที่ป่าน้อย น้ำเสีย น้ำท่วม น้ำแล้ง มีขยะ ดินเสื่อมโทรม ดินพังทลาย ปัญหาเกิดจากการบุกรุกป่า การขยายพื้นที่เกษตร ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน, ปัญหาน้ำเกิดจากอุทกภัย มีภัยแล้งขาดน้ำอุปโภคบริโภค การปล่อยน้ำเสียจากชุมชน อุตสาหกรรม ฟาร์มปศุสัตว์, ปัญหาขยะที่เกิดจากการขยายตัวของเมือง มีการบริโภคมาก ขาดการมีส่วนร่วมจากประชาชน, ดินขาดการฟื้นฟู การปลูกพืชที่ไม่เหมาะสมกับสภาพดิน การขยายตัวของชุมชน, พื้นที่ป่าลดลง กรมป่าไม้กำลังทำแนวเขตป่าให้ชัดเจน และให้มีการฟื้นฟูป่าอย่างต่อเนื่อง